๘๘
The 2 alliance
www.thaivwclub.com
www.modernbug.com

BEETLE (KAFER)
ผลิต 1 AUG 1962 - 30 JUL 1963
Chassis 4846836 ถึง 5677118

ปี 63 นับว่าเป็นปีที่น่าเล่นปีหนึ่ง ด้วยความคลาสสิ�หลายอย่างเช่น ไฟส่องป้ายทะเบียนแบบจมู�แม่มด �็มาสิ้นสุดที่ปีนี้ หลังคาถล� ไฟเลี้ยวแบบถั่ว และที่สำคัญเต่าปี 63 เป็นรุ่นทางวอลท์ดิสนีย์ได้เอามา แสดงเรื่อง Love Bug จนโด่งดังไปทั่วโล� มาดู�ันฮะว่า ปี 63 มีอะไร�ันบ้าง

ปี 63 เป็นปีสุดท้ายของไฟเลี้ยว "ถั่ว" พอปี 64 �็จะเปลี่ยนเป็นไฟเลี้ยวที่มีขนาดใหญ่ขึ้น สเปคอเมริ�าไฟหน้าจะเป็นแบบไม่มีลาย และจะฝัง Seal beam ไว้ด้านใน ในขณะที่สเป็คยุโรปจะเป็นเสนส์แบบมีลายและเป็นโคมฉาย

 


�ันชนถ้าเป็นสเปคยุโรปจะเป็นแบบหงอนเล็� ถ้าเป็นสเปคอเมริ�าจะเป็นแบบรั้ว ไฟด้านหลังสเปคอเมริ�าจะเป็นสีแดงล้วน สเปคยุโรปจะเป็นสีแดงสลับส้ม สังเ�ตุว่าไฟส่องป้ายทะเบียนหลังจะเป็นแบบจมู�แม่มด ซึ่งปี 63 เป็นปีสุดท้ายของไฟส่องป้ายทะเบียนแบบนี้ พอปี 64 �็จะเปลี่ยนเป็นแบบจมู�บาน (ผมเรีย�เองนะ) และฝา�ระโปรงหลังระหว่าปี 63 �ับ ปี 64 �็แต�ต่าง�ันเล็�น้อย ดูในรูปด้านข้าง "จมู�แม่มด" จะมีสันเลยยาวมาด้านล่าง แต่ของปี 64 จะมาสุดที่ไฟส่องป้ายทะเบียน ไม่ได้ยาวเลยมาด้านล่างเหมือนของ 63

 

ด้านหน้าปีนี้จะเป็นปีแร�ที่ไม่มีโลโ�้บนฝา�ระโปรง (ซึ่งผมว่ามีสวย�ว่านะ) และคิ้วบนฝา�ระโปรงจะยาว�ว่าปี 62 แต่ความ�ว้างเท่า�ัน

 

คิ้วด้านข้างตัวรถ คิ้วบันไดจะเป็นคิ้วใหญ่ ...คิ้วแบบเดิมจา�โรงงานจะทำมาจา�อลูมิเนียม ด้านหลังของหูช้างด้านหน้า จะเป็นเสาตรง เสาตรงนี้จะใช้ไปจนปี 64 แล้วเปลี่ยนเป็นเสาเอนตอนปี 65

 

ยางอะหลั่ยสามารถวางไว้ด้านหน้าได้ และบางคันได้ติดอุป�รณ์เสริมเพื่อเอาลมจา�ยางอะหลั่ยเป็นแรงดันให้�ับที่ฉีดน้ำฝน �ล่าวคือเจ้า�ระติ�เ�็บน้ำสำหรับฉีด�ระจ�นี้ต้องเติมลม (จะมีจุ้บยางเพื่อเติมลมที่ตัว�ระติ�) เข้าไปเพื่อเป็นแรงดันให้น้ำพุ่งไปสู่�ระจ�ได้ เวลาลมหมด�็ต้องเติมใส่�ระติ�ใหม่อี�ครั้ง แต่อุป�รณ์เสริมตัวนี้ จะเป็นอะแด็ปเตอร์เสียบไปที่ จุ้บยางอะหลั่ยแทน ลมจา�ยางอะหลั่ย�็จะไหลเข้า�ระติ�เ�็บน้ำนี้ ทำให้ไม่ต้องเติมลมอยู่บ่อย ๆ แต่�็ไม่ทำให้ลมยางอะหลั่ยหมดนะครับ เมื่อลมในยางอะหลั่ยเริ่มน้อย เจ้าอะแด็ปเตอร์นี้�็จะตัด ไม่ให้ใช้ลมจา�ยางอะหลั่ยอี�ต่อไป ฉลาดเนอะ...

ขอขอบคุณพี่เอ้ อยุธ ที่ท้วงติงมาเรื่อง ลมจา�ยางอะหลั่ยนี้นะครับ :-)

 

เปิดยางอะหลั่ยออ�มาจะมีที่เ�็บน้ำสำหรับฉีด�ระจ� ด้านหน้าแบบนี้ใช้มาตั้งแต่ปี 62 �ระปุ�ด้านข้างที่เ�็บน้ำคือ�ระปุ�น้ำมันเบรค ถังน้ำมันถู�ออ�แบบให้แบนขึ้น�ว่าเดิม เพื่อจะได้มีเนื้อที่เ�็บของมา�ขึ้น ฝาถังน้ำมันจะเล็��ว่าของปี 60 ในรูปด้านซ้ายจะเป็นที่เ�็บแม่แรง (ว่าแต่รถร�จังเนอะ รถใครหว่า)

 

ด้านล่างที่เ�็บน้ำจะเป็น Plate ที่บอ�คุณลั�ษณะของรถ ... ผมจะอธิบายความหมายของ Plate ในแต่ละแบบในคราวต่อไป

 

ที่ฉีดน้ำฝนจะเริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 61 จุดยึดที่ปัดน้ำฝนจะเยื้องจา�ศูนย์�ลางมาด้านขวาเล็�น้อย เพื่อให้ใบปัดอยู่พอดี�ับ�ระจ�ตอนที่ไม่ได้ใช้งาน

 

ที่เปิดประตูแบบ�ด จะใช้มาตั้งแต่ปี 60 ไปจนถึงปี 66 ด้านคนขับจะมีรูให้เสียบ�ุญแจ แต่ด้านคนนั่งจะไม่มี

 



หน้าปัทม์ปี 63 จะเป็นแบบนี้ โดยของเดิมจา�โรงงานจะไม่มีวิทยุติดมา จะเป็นคิ้วยาวไปจรด�ับที่วัดระดับน้ำมัน พวงมาลัยจะเป็นแบบ�ระเช้า เข็มที่วัดความเร็วจะเป็นสีขาวงาช้าง เลข�ิโลเมตรจะไปสุดที่ 140 ด้ามเ�ียร์จะเป็นแท่งตรง ที่วัดระดับน้ำมันจะเป็นอุป�รณ์มาตรฐาน มาตั้งแต่ปี 62 ปุ่มต่าง ๆ จะเป็นสีงาช้างทั้งหมด ฝรั่งเรีย� Ivory knob ... ในรูปบนพวงมาลัยที่ห้อยอยู่และแอร์เป็นอุป�รณ์เสริม :-)

 

ด้านคนนั่งจะมีที่จับ ซึ่งจะอยู่เหนือเ�๊ะด้านบน ที่จับนี้�ลายเป็นอุป�รณ์มาตรฐานในปี 1961

 

คันเร่งจะใช้แบบนี้มาตั้งแต่ปี 58 และจะไปเปลี่ยนอี�ทีตอนปี 67

 

ลายแผงประตูแบบเดิมจา�โรงงานจะเป็นแบบนี้ ผมได้ลอ�ลายเอาไว้แล้ว หา�เพื่อน ๆ ต้อง�ารลายแผงข้างนี้ ให้เมลล์มาที่ [email protected]

 

ที่พั�แขนด้านคนนั่งจะเป็นแบบนี้ สังเ�ตุจะมีคิ้วอลูมิเนียมคาดอยู่ด้วย

 


ตรงเสาประตูจะมีหมุด�า�บาท ซึ่งทำหน้าที่ปิดรูสำหรับใส่เข็มขัดนิรภัย หมุด�า�บาทนี้เริ่มใช้ปี 62 เป็นปีแร� ... ด้านหลังคนขับจะมีที่เขี่ยบุหรี่

 

ด้านบนของเสาประตูจะมีสายสำหรับให้ผู้โดยสารด้านหลังจับเพื่อดึงตัวขึ้นและออ�จา�รถ ... งงมั้ยเนี่ย ... เอาเป็นว่ามันไว้สำหรับคนนั่งหลังจับแล้ว�ัน ใครไม่เคยนั่งเต่าด้านหลังไม่รู้หรอ�ว่าสายนี้เอาไว้ทำอะไร :-)

 

ที่ปิดที่เ�็บของด้านหลัง จะมีปุ่มงาช้างไว้สำหรับยึดปิด - เปิด ตัวแผงปิดจะถู�ปั้มลายตาราง ทุ�จุดตัดจะมีหมุดสีเงินปั�ไว้

 

ที่ล้อคหูช้างหลังจะเป็นทรงเตี้ย และหูช้างหลังแบบเปิดได้นี้จะใช้ตั้งแต่ปี 62 (เจ้าหูช้างหลังนี้เป็นอุป�รณ์มาตรฐานปี 62) จนปี 64 สำหรับเต่าในเขตร้อน ซึ่งในยุโรป และอเมริ�าไม่มีนะครับ :-) ...ต่อมาในปี 65 หูช้างหลังจะใหญ่ขึ้น จุดยึดจะเปลี่ยนไปยึดที่�ระจ�เลย ไม่ใช่ยึดที่ของเหมือนรุ่นนี้ ในรูปจะมีหมุด�า�บาทที่ปิดรูยึดเข็มขัดนิรภัยด้านหลัง ซึ่งหมุดนี้ในรถเต่าแบบนี้ 1 คันจะมี 8 อัน

 

เครื่องเดิมที่ติดมา�ับรถจะเป็นเครื่อง 1200cc คาบูเร็ทเตอร์จะเป็นเบอร์ 28

 

ที่หมุน ragtop จะเป็นแบบนี้ ซึ่งปี 63 จะเป็นปีเดียวที่ใช้ตัวหมุนแบบนี้

 

�ระจ�มองหลังของปี 63 ซึ่งใช้มาตั้งแต่ปี 60

 

ที่บังแดดจะเล็�มา�ฮะ และแ�นของอันขวาจะสั้น�ว่าแ�นของอันซ้าย เพราะจะต้องหลบความ�ว้างของ�ระจ�มองหลัง

 

มือหมุน�ระจ� และมือเปิดประตู�็จะเป็นแบบนี้

 

เบรคมือจะเป็นด้ามเรียวยาว และปุ่มปลดล๊อคเบรคมือจะเป็นสีงาช้าง

 

คู่มือที่ติดมา�ับรถจะเป็นแบบนี้ ในรูปค่อนข้างทรุดโทรมมา�ฮะ �ว่าจะผ่านมาถึงผม �็ผ่านมาหลายมือแล้ว แต่ยังดีที่เจ้าของเ�่าไม่ทิ้ง :-)

 

 

Herbie in LOVE BUG

 

หลังจา� Walt Disney ทำหนังเรื่องใหม่คือ Love bug ออ�มาทำให้เจ้า "เต่าทอง" เป็นสัญลั�ษณ์แห่งความน่ารั� จา�อดีตสู่ปัจจุบัน ความน่ารั�ของเจ้า HERBIE �็ยังมีอยู่มิเสื่อมคลาย

 

เลข 53 ที่ติดอยู่หน้ารถ มีที่มาคือทาง WALT DISNEY ชอบนั�เบสบอลคนหนึ่งที่ใช้เบอร์ 53 (จำชื่อนั�เบสบอลไม่ได้อ่ะ)

 

ในเรื่องเจ้า HERBIE ใช้เต่าโมเดลปี 63แต่เครื่องข้างในโมดิฟายใหม่โดยใช้เครื่องของ Porsche และเ�ียร์�็เช่น�ัน LOVE BUG มีทั้งหมดอยู่ 4 ตอน รูปที่เห็นอยู่ด้านบนทั้งหมดมาจา� THE LOVE BUG ซึ่งเป็นตอนแร�

 

ตอนที่ 2 คือ HERBIE RIDES AGAIN ในเรื่องเจ้า HERBIE ช่วยป�ป้องยายแ�่จา��ารทุบตึ�ของนายทุน

 

ตอนที่ 3 HERBIE GOES TO MONTE CARLO �าร�ลับมาอี�ครั้งของ DEAN JONES ที่เป็นพระเอ�ในตอนแร�

 

ภาคสุดท้าย HERBIE GOES BANANAS เป็นเรื่องราวที่ HERBIE ไปช่วยเด็�คนนึง ในตอนนี้ HERBIE เ�ือบตาย

 

ฉา�สำคัญที่ดังไปทั่วโล��็อยู่ในตอน HERBIE GOES BANANAS ฉา�นี้เจ้า HERBIE ถู�โยนทิ้งลงทะเล

 

ความยิ่งใหญ่ของ HERBIE ทำให้�ระแส "เต่าทอง" ใน�ลางยุค 60 บูมขึ้นมาอี�ครั้ง

 

เรีย�ได้ว่า THE LOVE BUG เป็นหนังที่ทำให้เต่าทองเป็นที่รู้จั�ไปทั่วโล� และเป็นหนังที่ทำให้เต่า "ยิ่งใหญ่ที่สุด" �็ว่าได้ ได้ยินแว่ว ๆ มาว่าทาง WALT DISNEY จะทำภาคใหม่ของ THE LOVE BUG อยู่ หวังว่าคงได้เห็นเร็ว ๆ นี้
:-)

 

:-) ขอขอบคุณ คุณFriday 63, คุณEarth ที่เอื้อเฟื้อภาพครับ